ลดน้ำหนักด้วย Intermittent Fasting คืออะไร

Share : facebook_share google_share
line_share
twitter_share messenger_share

ลดน้ำหนักด้วย Intermittent Fasting คืออะไร

ลดน้ำหนักด้วย Intermittent Fasting คืออะไร



เรามาถึงยุคที่การลดน้ำหนักสามารถช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันให้ร่างกายได้ ซึ่งวิธีนี้ติดเทรนด์มาสักพักในประเทศไทยแล้ว และนับวันก็ยิ่งเป็นที่นิยมมากขึ้นวันนี้เราเลยมาแนะนำให้รู้จักกับ Intermittent Fasting หนึ่งในวิธีลดน้ำหนักสุดฮิตกัน

 

การอดอาหาร เพื่อหวังผลลัพธ์ของ การลดน้ำหนัก นั้นเป็นวิธีที่หลายต่อ หลายคนเลือกใช้ เนื่องจากให้ผลลัพธ์ทันใจ และไม่ต้อง ออกกำลังกาย ให้เหนื่อย โดยหนึ่งในวิธี การลดน้ำหนัก ที่กำลังเป็นที่นิยมกัน ในขณะนี้ก็ คือ การลดน้ำหนักด้วย การทำ IF ( Intermittent Fasting ) แต่ การลดน้ำหนัก ด้วยวิธีนี้จะได้ผลจริง และดีต่อสุขภาพ หรือไม่นั้น ต่อไปนี้เป็นข้อมูลเบื้องต้น ให้เพื่อน ๆ ได้ลองอ่านกันค่ะ

 

IF ( Intermittent Fasting ) คืออะไร ?

IF ( Intermittent Fasting ) เป็นรูปแบบ การอดอาหาร ที่มีวงจร การอดอาหาร เป็นช่วงเวลา ไม่ใช่ การอดอาหาร ตลอดทั้งวัน หรือทุกวัน และไม่มีการจำกัดว่า จะต้องรับประทานอาหาร ประเภทไหน หรือชนิดใดด้วย ข้อจำกัดเดียวของหลัก การอดอาหาร แบบ IF ( Intermittent Fasting ) ก็คือ การจำกัดช่วงเวลา ในการรับประทานอาหาร และช่วงเวลาที่ต้องอดอาหาร

 

 

IF ( Intermittent Fasting ) มีกี่ประเภท

การทำ IF ( Intermittent Fasting ) มีอยู่ด้วยกัน 4 ประเภทใหญ่ ๆ ดังนี้

 

1. การอดอาหารแบบ 5:2 ( The twice a week method - 5:2 )

การอดอาหารแบบ 5:2 หรือก็คือการอดอาหารสองวันต่อสัปดาห์ เป็นรูปแบบการอดอาหารที่จะเลือกวันสำหรับอดอาหารไว้แค่เพียงสองวันต่อสัปดาห์ และสองวันนั้นจะต้องทานอาหารให้ได้ปริมาณแคลอรีรวมกัน 500 แคลอรี เช่น เลือกอดอาหาร วันจันทร์ กับวันพุธ ดังนั้น ทั้งสองวันนี้ จะต้องรับประทานอาหาร รวมพลังงานให้ได้ 500 แคลอรี กล่าวคือ วันจันทร์รับประทานได้ 200 แคลอรี และวันพุธอีก 300 แคลอรี สำหรับการอดอาหาร ด้วยวิธี 5:2 นั้น ควรจะเน้น การรับประทานอาหาร ที่มีไฟเบอร์ และโปรตีนสูง

 

 

2. การอดอาหาร แบบวันเว้นวัน ( Alternate Day Fasting )

การอดอาหารแบบ วันเว้นวัน คือ รูปแบบ การอดอาหาร ที่จะทำสลับกับวัน ที่รับประทานอาหาร ในรูปแบบปกติ กล่าวคือ วันนี้ให้รับประทานอาหารตามปกติ โดยสามารถที่จะรับประทาน อะไรก็ได้ แต่วันต่อมา จะต้องจำกัดปริมาณ แคลอรีไว้แค่เพียง 500 แคลอรีต่อวันเท่านั้น

 

 

3. การอดอาหาร แบบจำกัดช่วงเวลา ( Time Restricted Eating )

การอดอาหาร ด้วยวิธีการจำกัดช่วงเวลา เป็นอีกหนึ่งทางเลือก สำหรับคนที่ต้องการ ความยืดหยุ่นของเวลา ในการรับประทานอาหาร เพราะสามารถเลือก ช่วงเวลาที่ต้องการ อดอาหาร และวางแผน ช่วงเวลาในการรับประทาน ได้อย่างเป็นระบบ

 

สำหรับ IF ( Intermittent Fasting )  ในรูปแบบนี้ที่นิยมใช้ กันอย่างแพร่หลาย คือ การอดอาหารสูตร 16:8 ซึ่งสามารถทำได้โดย ในหนึ่งวันนั้นจะ รับประทานอาหาร ได้เพียง 8 ชั่วโมง และอดอาหารให้ได้ 16 ชั่วโมง อย่างไรก็ตาม ในช่วงเวลาที่กำลังอดอาหารนั้น ยังสามารถที่จะดื่มน้ำ หรือรับประทานอาหาร ที่ไม่มีแคลอรีได้ เช่น กาแฟดำหรือน้ำอุ่น ซึ่งวิธีนี้สามารถทำได้ สัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง หรือตามต้องการ

 

 

4. การอดอาหารแบบทั้งวัน ( The 24 Hour Fast )

การอดอาหาร แบบทั้งวัน หรืออดอาหารตลอดทั้ง 24 ชั่วโมง โดยมากแล้วมักจะ เลือกอดอาหาร ตั้งแต่มื้อเช้าของวันนี้ ไปจนถึงช่วงเวลา อาหารเช้าของอีกวัน หรือมื้อเที่ยงของวันนี้ ไปจนถึงช่วงมื้อเที่ยงของอีกวัน ซึ่งจะทำกันประมาณ 1-2 ครั้งต่อสัปดาห์ อย่างไรก็ตาม การอดอาหาร ประเภทนี้เป็นวิธีที่ มีผลเสียทางสุขภาพ มากที่สุด ไม่ว่าจะเป็น ความเสี่ยงที่จะเกิด อาการปวดศีรษะ มีผลต่ออารมณ์ หรือสร้างความหงุดหงิด ทำให้ร่างกายอ่อนล้า ขาดพลังงาน และขาดสมาธิ และอาจรู้สึกหิวจนทนไม่ไหว

 

 

 

 

 

 

 

 

อ่านบทความเพิ่มเติม

Warm Up สำคัญเทียบเท่าการออกกำลัง

อาการบาดเจ็บจาก การออกกำลังกาย



บทความที่น่าสนใจ

ไป ฟิตเนส ควรวิ่งแบบเท่าเปล่า หรือใส่รองเท้าวิ่ง แบบไหนดีกว่า?
เริ่มต้น เวทเทรนนิ่ง ใน ฟิตเนส